ดีลเลอร์
สำหรับใครที่ทำธุรกิจคุณรู้หรือไม่ว่า สิ่งสำคัญเลยที่จะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้ดี ก็คือ ดีลเลอร์ หรือ ตัวแทนจำหน่าย เพราะพวกเขาเหล่านี้จะช่วยกระจายรายได้ และสามารถเพิ่มยอดขายได้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้กำไรจำนวนมากขึ้นแบบเป็นกอบเป็นกำกันเลยก็ว่าได้ สำหรับวันนี้เราก็จะพาคุณไปรู้จักกับ ดีลเลอร์เหล่านี้กันว่า คืออะไร พร้อมกับข้อดีและข้อเสียของพวกเขา
ดีลเลอร์ คืออะไร
ดีลเลอร์ คือ ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้จัดจำหน่าย หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง การรับ-ส่งสินค้า การทวงเงิน การจ่ายเงิน รวมถึงการแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ปัจจุบันตัวแทนจำหน่ายมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่เลือกใช้บริการสั่งซื้อ จัดหา ผ่านระบบตัวแทนจำหน่ายดีลเลอร์ ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ดีลเลอร์ แบ่งออกเป็นแบบไหนบ้าง
ดีลเลอร์หรือ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งหลายธุรกิจในปัจจุบันนิยมเลือกใช้บริการผ่าน ดีลเลอร์โทรศัพท์ หรือ ดีลเลอร์ซิมปันสุข โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทดังนี้
1.ดีลเลอร์แบบสต็อกสินค้า
ดีลเลอร์แบบสต็อกสินค้า คือ ตัวแทนจำหน่ายที่สต็อกสินค้า หรือดีลเลอร์ที่ซื้อขาด เพื่อเอาของมาสต็อกไว้กับตัวเองเลย โดยส่วนใหญ่จะซื้อในจำนวนที่ค่อนข้างเยอะ เพื่อจะได้ต้นทุนต่ำ ๆ สำหรับบางแบรนด์ก็จะมีการให้ผู้ที่สมัครเข้าไปจ่ายค่าสมัครก่อนด้วย จากนั้นก็จะให้ดีลเลอร์ซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาขายปลีก ทำให้ดีลเลอร์นำไปขายต่อในราคาที่ทำกำไรได้ ซึ่งดีลเลอร์แบบนี้ จะแบ่งออกเป็นหลากหลายระดับแล้วแต่แบรนด์จะกำหนด โดยตัวแทนในแต่ละระดับนี้ก็จะมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
2.ดีลเลอร์แบบไม่สต็อกสินค้า
ดีลเลอร์แบบไม่สต็อกสินค้าคือ ดีลเลอร์ที่จำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าอีกทอดนึง โดยที่ตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องสต็อกสินค้าด้วยตัวเอง ดีลเลอร์แบบนี้ จะทำหน้าที่เหมือนเป็นนายหน้า ที่จะคอยหาคนมาซื้อสินค้าให้ได้ จากนั้นก็จะรับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมียอดจำหน่าย ซึ่งดีลเลอร์แบบไม่สต็อกสินค้าก็จะมี 2 แบบคือ Drop Ship ดีลเลอร์แบบนี้จะรับของมา แล้วเอาไปขายต่อร้านค้าอีกที กับ Affiliate ดีลเลอร์แบบนี้ จะนำลิงก์สินค้าจากแบรนด์ หรือร้านที่รับของมา ไปโฆษณาตามเว็บบอร์ด หรือแฟนเพจของตัวเอง โดยจะกำหนดรหัสดีลเลอร์เอาไว้
ข้อดี – ข้อเสีย ของธุรกิจ ระบบดีลเลอร์ มีอะไรบ้าง
ข้อดี – ธุรกิจระบบ ดีลเลอร์
- ข้อดีสำหรับการทำธุรกิจด้วยระบบดีเลอร์หรือตัวแทนจำหน่าย คือ จะได้รับสินค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่ได้กำไรมากกว่า เรียกว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก ๆ
- ไม่ต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน ๆ เนื่องจากดีลเลอร์โดยส่วนใหญ่จะมีของพร้อมส่ง ที่สำคัญไม่ต้องรอเช็คอีกด้วย
- ดีเลอร์ไม่ต้องมีเงินทุน ไม่ต้องสต็อกของ เนื่องจากต้นทางมีสินค้าพร้อมส่งตลอดเวลาที่มียอดสั่งสินค้าเข้ามา และไม่ต้องรอนานให้เสียเวลา ทำรายได้แบบง่ายๆ กันไปเลย โดยทางร้านจะเป็นคนส่งสินค้าให้เอง
ข้อเสีย – ธุรกิจระบบ ดีลเลอร์
- หากเป็นดีลเลอร์ที่ต้องสต็อกสินค้า อาจจะต้องลงทุนเยอะ และมีความเสี่ยงขาดทุนสูง จึงทำให้ส่วนใหญ่จะไม่สต็อกสินค้า
- อีกหนึ่งข้อเสียคือ คาดการณ์จำนวนสต็อกสินค้าไม่ถูก ทำให้สินค้าจำนวนมากมักจะหมดอายุก่อน จึงส่งผลทำให้ขาดทุนได้อย่างมากมาย
- ได้กำไรจากการลงทุนน้อย และที่สำคัญก็คือการที่เราไม่เห็นของก่อน จะทำให้เราไม่สามารถคุมคุณภาพไว้ได้
- สำหรับข้อเสียของการไม่สต็อกสินค้าก็คือ ของไม่พร้อมส่ง ส่งผลทำให้ลูกค้าไม่เชื่อถือในการบริการ
ก็ได้รู้กันไปแล้วว่าการทำธุรกิจผ่านระบบดีลเลอร์นั้นเป็นอย่างไร ดังนั้นหากใครที่ต้องการที่จะทำธุรกิจในรูปแบบนี้ คุณควรที่จะศึกษา และทำความเข้าใจให้ดีก่อน พร้อมกับเลือกดีลเลอร์ หรือตัวแทนจำหน่ายที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีความน่าเชื่อถือ พร้อมกับควรจัดสรรงบลงทุน เพื่อให้ได้ดีลเลอร์ที่ตอบโจทย์ที่สุด หรือหากใครที่มีทุนเยอะก็ขายขาดสต็อกให้ดีลเลอร์เลยก็สามารถทำได้
รับสมัครจำนวนจำกัด 🔥
แบรนด์สินค้าสมัครเข้าร่วมเปิดหน้าร้าน รับสิทธิพิเศษมากมายก่อนใคร พร้อมรับสมัครตัวแทนจำหน่ายแบบสต๊อกและไม่สต๊อก
คลิกสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยทันที !